การนอนกรนเป็นปัญหาใหญ่ของแทบจะทุกบ้าน หลายๆ คนอาจจะไปหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตเพื่อหาทางแก้ และได้เห็นเครื่องมือหรืออุปกรณ์แก้นอนกรนต่างๆ มากมายบนอินเตอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นเหล่าอุปกรณ์เล็กจิ๋วที่ใช้เสียบจมูก สายรัดคอ หรือสมุนไพรต่างๆ แต่คุณจะรู้หรือไม่ว่าหลายๆ โฆษณาช่วยเชื่อเหล่านั้น ไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาการนอนกรนได้จริง
การมีเสียงกรนนั้น เกิดจากกล้ามเนื้อ ในช่องปากมีการคลายตัว และหย่อนลงมาปิดกั้นทางเดินหายใจในขณะที่เรานอนหลับ ทำให้ช่องทางเดินหายใจมีภาวะตีบแคบลง หายใจเข้าออกลำบากและไม่สะดวก จึงทำให้เราต้องหายใจเข้าอย่างแรง จึงทำให้เกิดการกระพือของเสียง ซึ่งก็คือเสียงกรนนั่นเอง
2.1 การใช้ยาสมุนไพร มีสมุนไพรหลายประเภทที่ถูกกล่าวถึงว่ามีฤทธิ์ที่สามารถทำให้หายกรนได้ แต่จริงๆแล้วสมุนไพรเหล่านี้จะช่วยเพียงบรรเทาอาการได้เล็กน้อยเท่านั้น อาจจะทำให้ลำคอชุ่มชื่นขึ้น หรือช่วยละลายเสมหะ แต่จะไม่สามารถทำให้ช่องทางเดินหายใจกว้างขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการนอนกรนเสียงดัง
2.2 การใช้สายรัดคาง หลายงานวิจัยออกมายืนยันแล้วว่า สายรัดคางไม่ได้ช่วยเรื่องการนอนกรนเลยซักนิด แถมยังอาจจะทำให้อาการหนักขึ้นไปอีก เนื่องจากเป็นการไปบีบรัดขากรรไกร เพราะฉะนั้นหากเห็นโฆษณาบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซต่างๆ อย่าไปหลงเชื่อเป็นอันขาด
2.3 การใช้อุปกรณ์เสียบหรือหนีบจมูกเล็กๆ สิ่งนี้เคยฮิตมากในอินเทอร์เน็ต และทุกวันนี้ก็ยังมีขายบน Shopee กับ Lazada ทั้งๆ ที่กรมอาหารและยา ได้ออกมาเตือนแล้วว่าอันตราย และไม่สามารถแก้อาการนอนกรนได้จริง แถมส่วนใหญ่ยังถูกผลิตจากโรงงานในจีนที่ไม่ได้รับมาตรฐานอีกด้วย จึงอันตรายมากๆ หากผู้บริโภคซื้อมาใช้เอง
การไปปรึกษาคุณหมอ หรือไปตรวจที่คลีนิกตรวจการนอน (Sleep Lap) จะทำให้คุณรู้สาเหตุของการนอนกรนของคุณอย่างแท้จริง ไม่ต้องเสียเวลา เสียเงินไปกับการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงจุด ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง และปล่อยทิ้งไว้นานๆ อาการอาจจะหนักมากขึ้นไปอีก
รวมอยู่ด้วย แต่ถึงแม้จะไม่มีอันตราย แต่มันก็เป็นปัญหาและมีผลกระทบต่อคนรอบข้างและคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะกับคู่นอนหรือคู่สามีภรรยา ถ้ากรนเสียงดังมากและยาวนานหลายปี ก็อาจเป็นปัญหาไปจนถึงการหย่าร้างได้เช่นกัน
หยุดหายใจอยู่ด้วย การนอนกรนประเภทนี้นอกจากจะรบกวนคนรอบข้างในขณะหลับแล้ว ยังส่งผลต่อสุขภาพและการใช้ชีวิตของผู้กรนเองด้วยเช่นกัน เพราะมันทำให้นอนหลับไม่สนิท จะมีการสะดุ้งตื่นเป็นพักๆ ส่งผลให้นอนหลับพักผ่อนได้ไม่เต็มที่และง่วงนอนบ่อยในตอนกลางวัน ซึ่งมีผลกระทบต่อการใช้สมาธิในการทำงาน การเรียน การขับรถ หรือการใช้ชีวิตทั่วไป อาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ และหากปล่อยไว้นานๆ การกรนประเภทนี้ก็ยังทำให้มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคต่างๆ ได้ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดในสมอง หัวใจเต้นผิดจังหวะ เป็นต้น
เราจะรู้ก็ต่อเมื่อเราได้ทำการตรวจ Sleep Test เพื่อวัดค่า AHI (Apnea-hypopnea index) ซึ่งเป็นค่าการหยุดหายใจขณะหลับ ที่จะวัดว่าเราเป็นโรค Sleep Apnea (โรคหยุดหายใจขณะหลับ) หรือไม่
เมื่อทำ Sleep Test จนได้ผลออกมาแล้วว่าอาการของคุณอยู่ในระดับไหน คุณก็จะสามารถรักษาหรือแก้ไขได้ถูกต้อง ปลอดภัย ไม่ต้องเสียเงิน เสียสุขภาพ และเสียเวลาเปล่าอีกด้วย
กรณีแบบอาการนอนกรนธรรมดา
กรณีแบบอาการนอนกรนอันตราย
จากข้อมูลที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ จะเห็นว่าอาการนอนกรนไม่ใช่เรื่องตลกเลย การนอนกรนถือเป็นภัยใกล้ตัวที่คุณไม่ควรมองข้ามและไม่ควรซื้ออุปกรณ์มาใช้เอง อย่าหลงเชื่อคำโฆษณาเพียงเพราะคิดว่ามันง่าย สะดวก ราคาถูก แต่ควรคำนึงถึงการรักษาที่ตรงจุดและถูกวิธี โดยการทำ Sleep Test ก่อน เพื่อดูว่าเรามีอาการอยู่ในระดับไหน เพราะถ้าอาการรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แล้วยังปล่อยไว้นาน ไม่รีบรักษาให้ถูกต้อง อาจส่งผลถึงขั้นเสียชีวิตได้ เราจึงสนับสนุนให้ทุกคนที่นอนกรนได้ไปตรวจ เพื่อตัวคุณเองและคนที่คุณรัก
อ้างอิง: